วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ใครสิวเยอะจัดไป !! สูตรเด็ด "ลดแผลเป็นสิว" ด้วยวิธีธรรมชาติอันแสนง่าย หายฉับไว.. ที่หลายคนลองใช้แล้วได้ผลจริง

หมดปัญหากันไปเลยกับสูตรเด็ดที่ง่ายๆทำได้ทุกที่ (ถ้าสะดวก) กับหลายคนที่มีปัญหาเรื่อง "สิว" โดยจากที่สิวเริ่มหายแล้วนั้นมักปัญหาที่ตามมาก็คือ รอยแผลเป็นจากสิว ที่มีรอยดำคล้ำ จนสร้างปัญหาให้ใครหลายๆคนต้องเซง และบางคนหากเป็นเยอะแล้วนั้นแทบไม่ออกจากบ้านเลยทีเดียว


วันนี้เรามีทางแก้ปัญหา ลดรอยแผลเป็นจากสิว ในแบบธรรมชาติ ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นไปดุกับเลย รับรองได้เลยว่าสูตรนจี้หลายคนเคยใช้มาแล้วต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าได้ผลจริง!!!




1. ทาน้ำมะนาวสด น้ำมะนาวมีคุณสมบัติขัดฟอกผิวตามธรรมชาติ และสามารถช่วยให้สีของแผลเป็นจากสิวอ่อนลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้คุณผสมน้ำมะนาวกับน้ำในอัตราส่วนที่เท่ากัน แล้วนำมาทาบนรอยแผลเป็นทั้งหลาย และหลีกเลี่ยงบริเวณผิวหนังโดยรอบ จากนั้นเมื่อเวลาผ่านไป 15-20 นาที ให้ล้างออก หรือคุณอาจจะปล่อยทิ้งไว้ข้ามคืนแบบมาส์กก็ได้ แต่การทิ้งไว้ข้ามคืนไม่ใช่วิธีที่แนะนำเพื่อทำให้รอยสิวสีจางลง เนื่องจากน้ำมะนาวมีค่าความเป็นกรดด่าง (pH) คือ 2 แต่ของผิวหนังคือ 4.0-7.0 ดังนั้นหากปล่อยทิ้งไว้นานเกินไปหรือไม่ได้ทำให้เจือจางก่อน จะสามารถก่อให้เกิดภาวะผิวไหม้จากเคมีได้ น้ำผลไม้รสเปรี้ยวต่างๆ ประกอบไปด้วยสารเคมีที่เรียกว่า เบอร์แกพเทน (Bergapten) ซึ่งจะไปผูกติดกับ DNA และทำให้ผิวหนังถูกทำลายโดยรังสี UV ได้ง่ายกว่าเดิม
จำไว้ว่าให้เติมความชุ่มชื้นแก่ผิวทันทีหลังจากล้างน้ำมะนาวออกแล้ว เนื่องจากกรดซิตริกในมะนาวสามารถทำให้ผิวแห้งได้อย่างมาก
น้ำมะนาวพันธุ์ลูกสีเขียวที่มีขนาดเล็กกว่า (lime ซึ่งมีกรดซิตริก
เช่นกัน) ในปริมาณเพียงเล็กน้อย สามารถนำมาใช้แทนน้ำมะนาวพันธุ์ลูกสีเหลืองที่มีขนาดใหญ่กว่า (lemon) ได้เลย




2. ขัดผิวหน้าด้วยผงฟู ผงฟูสามารถนำมาใช้ขัดผิวและลดขนาดรอยแผลเป็นจากสิวได้ ทั้งหมดที่คุณต้องทำก็คือ ผสมผงฟู 1 ช้อนชาเข้ากับน้ำ 2 ช้อนชา นำมาทาทั่วทั้งใบหน้าแล้วนวดวนๆ ให้ผงฟูเข้ากับผิวหน้า โดยเน้นบริเวณที่มีรอยแผลเป็นสัก 2 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่นแล้วซับผิวให้แห้ง ไม่แนะนำวิธีนี้สำหรับรักษาหรือทำให้รอยสิวหรือสิวที่ยังอักเสบอยู่หายไป เนื่องจากค่า pH ของผงฟูคือ 7.0 ซึ่งนับว่าเป็นกลางกับค่า pH ของผิวหนังเกินไป ทั้งนี้ค่า pH ของผิวหนังที่ดีที่สุดอยู่ที่ระหว่าง 4.7-5.5 ซึ่งไม่เอื้อต่อการเกิดสิวประเภท p. acne (สิวส่วนใหญ่ที่มีแบคทีเรียเป็นต้นเหตุ) ฉะนั้นการเพิ่มค่า pH ให้เป็นกลางมากขึ้น สิวประเภทดังกล่าวก็จะสามารถอยู่รอดบนหน้าของคุณได้นานขึ้น รวมถึงเกิดการติดเชื้อและอักเสบได้มากขึ้นอีกด้วย[1]
คุณอาจใช้ส่วนผสมของผงฟูกับน้ำ เพื่อรักษาแบบเฉพาะจุดได้เช่นกัน โดยทาบนบริเวณรอยแผลเป็นโดยตรง แล้วปล่อยทิ้งไว้ 10-15 นาทีก่อนจะล้างออก

 


3. ใช้น้ำผึ้ง น้ำผึ้งคือยารักษาจากธรรมชาติสำหรับขจัดสิวและลดรอยแดงที่สิวทิ้งไว้ ที่น้ำผึ้งทำเช่นนี้ได้ก็เพราะในน้ำผึ้งมีสารต้านแบคทีเรีย ซึ่งจะช่วยปลอบประโลมผิวและลดการอักเสบ น้ำผึ้งสดไม่ผ่านกระบวนการหรือน้ำผึ้งมานูกาเป็นน้ำผึ้งที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุด สามารถนำมาแต้มได้โดยตรงที่บริเวณแผลเป็นโดยใช้คอตตอนบัด

น้ำผึ้งเป็นทางเลือกที่ดีมากสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย เนื่องจากน้ำผึ้งไม่มีสารก่อความระคายเคือง และยังต่างไปจากยารักษาอื่นๆ ที่จะทำให้ผิวแห้ง เพราะน้ำผึ้งจะมอบความชุ่มชื้นแก่ผิว

หากคุณหาซื้อผงไข่มุกได้ (ซึ่งสามารถพบได้ตามร้านขายสินค้าเพื่อสุขภาพหรือตามอินเทอร์เน็ต) ก็สามารถนำผงไข่มุกปริมาณเพียงเล็กน้อยมาผสมกับน้ำผึ้ง เพื่อให้ได้ทรีทเมนต์ที่มีฤทธิ์ในการรักษามากขึ้น เพราะผงไข่มุกน่าจะช่วยลดการอักเสบและทำให้รอยสิวจางลงได้



4. ทดลองใช้ว่านหางจรเข้ วุ้นของว่านหางจระเข้คือสิ่งที่มีฤทธิ์ปลอบประโลมผิวตามธรรมชาติ ซึ่งสามารถนำมาใช้บรรเทารักษาได้หลายอย่าง ตั้งแต่แผลไฟไหม้ แผลสด ไปจนถึงแผลเป็นจากสิว ว่านหางจระเข้จะช่วยฟื้นฟู ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว และเร่งให้รอยสิวจางหายไป ผลิตภัณฑ์จากว่านหางจระเข้หาซื้อได้ง่ายตามร้านขายยาทั่วไป แต่ถ้าให้ดีที่สุด ควรซื้อต้นว่านหางจระเข้แล้วใช้วุ้นจากใบที่หักแล้ว เจ้าวุ้นที่มีลักษณะเหมือนเจลนี้สามารถนำมาทาที่แผลเป็นได้โดยตรงและไม่จำเป็นต้องล้างออก

เพื่อให้ได้ฤทธิ์การรักษาที่เข้มข้นขึ้น คุณสามารถผสมน้ำมันทีทรี (ซึ่งช่วยให้ผิวกระจ่างใส) ลงไปในวุ้นว่านหางจระเข้ก่อนนำไปทาผิว



 
5. ใช้น้ำแข็งก้อน การใช้น้ำแข็งเป็นวิธีรักษาที่ทำได้ที่บ้าน แถมยังง่ายสุดๆ ซึ่งสามารถช่วยให้รอยสิวจางลงด้วยการปลอบโยนผิวที่อักเสบและลดรอยแดง เวลาจะใช้ ให้คุณห่อน้ำแข้งก้อนด้วยผ้าสะอาดหรือทิชชูอย่างหนาแผ่นหนึ่ง แล้วประคบบริเวณที่มีแผลเป็นสัก 1 หรือ 2 นาที จนกว่าผิวบริเวณดังกล่าวจะรู้สึกชา

แทนที่จะทำน้ำแข็งจากน้ำธรรมดา คุณสามารถนำน้ำชาเขียวเข้มข้นมาใส่ถาดทำน้ำแข็งแล้วนำน้ำแข็งชาที่ได้มาประคบบริเวณรอยสิว ในชาเขียวมีสารต้านการอักเสบ ซึ่งไปเสริมฤทธิ์กับความเย็นของน้ำแข็ง




6. ทำยาพอกจากไม้แก่นจันทน์ เป็นที่รู้กันดีว่าไม้แก่นจันทน์มีสรรพคุณในการรักษาผิว อีกทั้งยังสามารถจัดเตรียมไว้ใช้ได้ง่ายๆ ที่บ้าน เพียงคุณผสมผงไม้แก่นจันทน์ 1 ช้อนโต๊ะเข้ากับน้ำดอกกุหลาบหรือนมสัก 2-3 หยดเพื่อทำเป็นยาพอก จากนั้นนำมาทาบริเวณแผลเป็นแล้วทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาทีก่อนล้างออก ทำเช่นนี้ซ้ำกันทุกวันจนกว่าแผลเป็นจะหายไป
 
อีกทางเลือกหนึ่ง คุณสามารถผสมผงไม้แก่นจันทน์กับน้ำผึ้งปริมาณเล็กน้อย แล้วใช้ยาพอกที่ได้ในการลดรอยแผลเป็นเฉพาะจุดก็ได้




7. ลองใช้น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล เมื่อใช้ไปได้สักระยะหนึ่ง น้ำส้มสายชูหมักแอปเปิลจะช่วยจัดสมดุลค่า pH ของผิวคุณ ปรับปรุงสภาพผิว แล้วยังช่วยลดรอยแดงและรอยแผลเป็นต่างๆ อีกด้วย เวลาจะใช้ให้คุณเจือจางน้ำส้มสายชูนี้ด้วยน้ำ โดยให้น้ำมีปริมาณมากกว่าน้ำส้มสายชูสองเท่า แล้วนำมาทาบริเวณแผลเป็นโดยใช้สำลีก้อนทุกวัน จนกว่าแผลเป็นจะเริ่มหายไป

วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

“10 ต้นไม้ไล่ยุง” ปลูกติดบ้านไว้ ปลอดภัยไร้ยุงกวนใจห่างไกลไข้เลือดออก!!

ไข้เลือดออกกำลังระบาด หากพอมีวิธีไหนที่จะช่วยป้องกันยุงได้ก็คงจะดีไม่ใช่น้อย ซึ่งนอกจากการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงตามแอ่งน้ำต่างๆแล้ว ก็สามารถสร้างปราการป้องกันยุงได้อีกหนึ่งวิธีด้วยการใช้ "ต้นไม้ไล่ยุง" ที่จะทำให้เจ้ายุงร้ายถอยห่างออกไปจากบ้านของเรา และจะช่วยให้พวกเราปลอดภัยจากโรคติดต่อได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังไร้สารเคมีที่คอยทำลายสุขภาพอีกด้วย
“10 ต้นไม้ไล่ยุง” ปลูกติดบ้านไว้ ปลอดภัยไร้ยุงกวนใจห่างไกลไข้เลือดออก!!

1. ตะไคร้หอม
พืชชนิดนี้มีกลิ่นเป็นอาวุธ เมื่อยุงได้กลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของตะไคร้มันก็มักจะทนไม่ได้เสมอ ทั้งนี้ก็เพราะยุงไม่ถูกกับน้ำมันหอมระเหยที่อยู่ในตะไคร้นั่นเอง และเพราะตะไคร้เป็นต้นไม้ที่ไม่ค่อยสูงมากนัก ปลูกง่าย ขยายพันธุ์สะดวก การปลูกตะไคร้ใส่กระถางแล้ววางไว้ริมระเบียงหรือสวนในบ้าน ก็น่าจะช่วยป้องกันเจ้ายุงร้ายให้มันอพยพหนีออกไปได้เป็นอย่างดี

“10 ต้นไม้ไล่ยุง” ปลูกติดบ้านไว้ ปลอดภัยไร้ยุงกวนใจห่างไกลไข้เลือดออก!!

2. แคทนิป หรือ กัญชาแมว
ต้นไม้ชนิดนี้เป็นพืชตระกูลเดียวกับสะระแหน่ ต้นกัญชาแมวสามารถขยายพันธุ์ง่าย ๆ ด้วยการเพาะเมล็ดในดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำได้ดี มีแสงแดดส่องถึง ซึ่งเมื่อต้นไม้ชนิดนี้เตอบโต สารเนเปทาแลคโตน (Nepetalactone) ที่อยู่ในกัญชาแมวจะทำให้น้องแมวมีความสุขคล้ายกับสารเสพติด และยังเป็นสารช่วยป้องกันยุงและแมลงที่ได้ผลมากกว่ายาฆ่าแมลงซะอีก ที่สำคัญคือไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ด้วย

“10 ต้นไม้ไล่ยุง” ปลูกติดบ้านไว้ ปลอดภัยไร้ยุงกวนใจห่างไกลไข้เลือดออก!!

3. โหระพา
บ้านไหนชอบทำอาหารแนะนำให้ปลูกโหระพาเลยค่ะ เพราะนอกจากจะนำมาเป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารรสจัดจ้านได้แล้ว โหระพายังช่วยป้องกันยุงได้เป็นอย่างดีอีกด้วย กลิ่นหอมเฉพาะตัวของโหระพาจะส่งผลเสียต่อยุงและแมลง และเมื่อพวกมันไม่สามารถทนทานต่อกลิ่นฉุนของโหระพาได้ มันก็จะเข้ามาทำร้ายเราได้ยากขึ้นในที่สุด

“10 ต้นไม้ไล่ยุง” ปลูกติดบ้านไว้ ปลอดภัยไร้ยุงกวนใจห่างไกลไข้เลือดออก!!

4. สะระแหน่
อีกหนึ่งพืชผักสวนครัวตัวดีที่ยุงเห็นแล้วต้องส่ายหน้าก็คือ "สะระแหน่" เพราะภายในใบสะระแหน่จะมีน้ำมันหอมระเหยที่ยุงไม่ชอบเอามาก ๆเลย หากใครต้องการกันยุง ให้นำใบสะระแหน่มาขยี้แล้วทาลงบนผิวโดยตรงได้เลย รับรองว่ายุงขยาดแน่นอน

“10 ต้นไม้ไล่ยุง” ปลูกติดบ้านไว้ ปลอดภัยไร้ยุงกวนใจห่างไกลไข้เลือดออก!!

5. กระเทียม
เพราะกระเทียมมีฤทธิ์เป็นเบสต่อการทำอาหารแทบทุกชนิด และกลิ่นของกระเทียมก็รุนแรงจนช่วยกันยุงไม่ให้บินเข้ามาหาเราได้ง่ายๆ การปลูกกระเทียมจึงเหมาะสมเป็นอย่างมากสำหรับคนที่อยากมีสุขภาพดี เพราะนอกจากจะกับยุงได้แล้ว การรับประทานกระเทียมยังช่วยความคอเลสเตอรอลในกระแสเลือดได้อีกด้วยนะ

“10 ต้นไม้ไล่ยุง” ปลูกติดบ้านไว้ ปลอดภัยไร้ยุงกวนใจห่างไกลไข้เลือดออก!!

6. เจอเรเนียม
หลายคนน่าจะเคยได้ยินชื่อดอกไม้ชนิดนี้ในโฆษณาสินค้าบางประเภท และที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะน้ำมันหอมระเหยของดอกเจอเรเนียมจะมีกลิ่นคล้ายเลมอน ซึ่งเมื่อฟุ้งกระจายออกไปในอากาศแล้ว ก็จะช่วยไล่ยุงในยามค่ำคืนได้เป็นอย่างดี เพราะเช่นนั้นถึงได้มีคนเอากลิ่นของดอกไม้ชนิดนี้ไปเสริมแต่งกลิ่นในผลิตภัณฑ์บางประเภทนั่นเอง

“10 ต้นไม้ไล่ยุง” ปลูกติดบ้านไว้ ปลอดภัยไร้ยุงกวนใจห่างไกลไข้เลือดออก!!

7. มะกรูด
ใครๆก็เอามะกรูดไปหมักผม แต่นอกจากความสามารถในการบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะแล้ว มะกรูดก็ยังใช้ไล่ยุงได้เป็นอย่างดีด้วย ทั้งนี้เพราะน้ำมันหอมระเหยในมะกรูดจะช่วยส่งกลิ่นฉุนไปรบกวนและป้องกันยุงไม่ให้บินเข้ามายุ่งในบ้านได้นั่นเอง

“10 ต้นไม้ไล่ยุง” ปลูกติดบ้านไว้ ปลอดภัยไร้ยุงกวนใจห่างไกลไข้เลือดออก!!

8. มอสซี่ บัสเตอร์
เป็นผลพวงจากการผสมพันธุ์ระหว่างเจอเรเนียมและตะไคร้หอม ทำให้มีลักษณะใบหยักคล้ายเจอเรเนียม และสามารถส่งกลิ่นคล้ายกลิ่นตะไคร้หอม ซึ่งมีฤทธิ์ไล่ยุงได้ไกลถึง 9 เมตร แนะนำให้ปลูกไว้ที่ริมรั้วที่ห่างจากตัวบ้านสักหน่อย เพราะในขณะที่กำลังเจริญเติบโตและมีขนาดเล็กมันจะมีสารที่ดึงดูดยุง แต่เมื่อมันโตเต็มที่ สารนั้นก็จะเปลี่ยนเป็นสารไล่ยุงแทน

“10 ต้นไม้ไล่ยุง” ปลูกติดบ้านไว้ ปลอดภัยไร้ยุงกวนใจห่างไกลไข้เลือดออก!!

9. หม้อข้าวหม้อแกงลิง
พืชชนิดนี้เป็นไม้เลื้อยชนิดกินเนื้อที่จะกินเฉพาะแมลงเท่านั้น มีลักษณะคล้ายคลึงกับรูปร่างลิง ภายในเป็นหม้อที่มีของเหลวไว้ล่อแมลง และค่อยกลืนแมลงลงไปอย่างช้า ๆ คราวนี้ไม่ว่าจะยุงหรือแมลงไหน ๆ ที่บินมาติดกับก็จะโดนงับจนหายหมดสิ้น

“10 ต้นไม้ไล่ยุง” ปลูกติดบ้านไว้ ปลอดภัยไร้ยุงกวนใจห่างไกลไข้เลือดออก!!

10. จิงจูฉ่าย
ต้นจิงจูฉ่าย ถูกรู้จักกันดีในนามของสมุนไพรจีนต้านมะเร็ง แต่นอกจากการเป็นต้นไม้รักษาโรคแล้ว ต้นไม้ชนิดนี้ยังเป็นต้นไม้ที่มีกลิ่นหอมที่ยุงไม่ชอบและไม่กล้าบินเข้ามาใกล้ด้วย เมื่อนำมาบดขยี้แล้วทาที่ผิวหนัง ก็จะสามารถกันยุงได้เป็นอย่างดี

วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

php

ปกติแล้วเวลาทำการติดตั้ง php ค่า default ของ register_globals จะเป็น Off แต่บางครั้งเราก็มีความจำเป็นที่เราจะต้องการใช้งาน ในแบบที่ register_globals=On เช่น ไม่อยากไปแก้ code โปรแกรมเดิมที่เขียนไว้ตั้งนานแล้วบ้างล่ะ แต่จะทำยังไง ถ้าหากว่า server ที่เราจำเป็นต้องใช้งานเค้ากำหนด register_globals มาให้เป็น Off ล่ะจะทำยังไง
เคยประสบปัญหาเวลาจะทำการย้าย server หรือมีการ upgrade version ของ php เป็น version ใหม่ แล้วทาง admin เค้าไม่ได้กำหนดให้ register_globals = On กันบ้างไหม เราจะแก้ปัญหากันยังไง แก้ code ในโปรแกรมของเรา หรือว่าจะแจ้ง admin ให้เค้าแก้ php.ini ให้ ????
โดยปกติแล้วเวลาทำการติดตั้ง php ค่า default ของ register_globals จะเป็น Off แต่บางครั้งเราก็มีความจำเป็นที่เราจะต้องการใช้งาน ในแบบที่ register_globals=On เช่น ไม่อยากไปแก้ code โปรแกรมเดิมที่เขียนไว้ตั้งนานแล้วบ้างล่ะ แต่จะทำยังไง ถ้าหากว่า server ที่เราจำเป็นต้องใช้งานเค้ากำหนด register_globals มาให้เป็น Off
วันนี้ผมมี script ที่จะช่วย convert ค่าตัวแปรที่อยู่ใน $_GET, $_POST, $_FILES ให้เป็นชื่อ ตัวแปร แบบที่ถูกกำหนดใน php.ini ให้ register_globals=On จะง่ายดายเพียงใด เชิญชม..
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
// Convert Variable Array To Variable
 
while(list($xVarName, $xVarvalue) = each($_GET)) {
     ${$xVarName} = $xVarvalue;
}
 
 
while(list($xVarName, $xVarvalue) = each($_POST)) {
     ${$xVarName} = $xVarvalue;
}
 
while(list($xVarName, $xVarvalue) = each($_FILES)) {
     ${$xVarName."_name"} = $xVarvalue['name'];
     ${$xVarName."_type"} = $xVarvalue['type'];
     ${$xVarName."_size"} = $xVarvalue['size'];
     ${$xVarName."_error"} = $xVarvalue['error'];
     ${$xVarName} = $xVarvalue['tmp_name'];
}
จากนั้นก็เพียงแค่นำ code นี้ไปใส่ไว้ที่บรรทัดแรกสุดของโปรแกรมที่เราเขียน หรือว่าจะเอาไปใส่ไว้ใน file include ก็ได้นะครับ
ตัวอย่างจาก Source Code เราจะได้ชื่อตัวแปรใหม่ดังนี้ ซึ่งจะตรงกับชื่อตัวแปรที่ถูกกำหนดจาก register_globals=On
1
2
3
4
5
$_GET["get_var1"] //ไปเป็น $get_var1
 
$_POST["post_var1"] //ไปเป็น $post_var1
 
$_FILES["file1"] //ไปเป็น $file1, $file1_name, $file1_type, $file1_size
อีกนิด : ถ้าเป็นไปได้ควรเขียนโปรแกรมรับค่าจาก form ต่างๆ โดยใช้ตัวแปร $_GET, $_POST,$_FILES นะครับ

MySQL




แก้ปัญหา too many connection กับ default mysql setting

max_connect_errors
เมื่อ client ไม่สามารถ connect  mysql เซอร์เวอร์ได้    เซอร์เวอร์จะทำการยกเลิก connection นั้นหลังจาก รอไประยะหนึ่ง (wait_timeout)   และเมื่อเกิด connection_timeout mysql จะมี counter อยู่ตัวหนึ่งเอาไว้นับจำนวน connection ที่เข้ามาที่เครื่อง โดยนับแบบ สะสมไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง clinet สร้าง connection  มาที่ mysql จนถึงค่า max_connect_errors  client จะมาสามารถ connect mysql ได้อีก โดยมีข้อความแจ้งเตตือน error  ประมาณว่า too many connection   จนกว่าเราจะไป Flush hosts (clear counter) นั้นทิ้ง     เราไม่สามารถ disable  ตัว counter นี้ได้เลย จากตัวแปร max_connect_error  หากเราเซ็ทค่าเป็น 0 (ซึ่งน่าจะหมายถึง infinity ก็ไม่ได้ช่วยอะไร​)  วิธีแก้ปัญหา มีสองวิธี คือเซ็ทค่า  max_connect_error=1844674407370954751 (ไม่แน่ใจตัวเลขนี้มาจากไหน น่าจะเป็นค่า max สุดที่เซ็ทได้รึเปล่า ) และสอง เจอ error  ก็ใช้คำสั่ง FLUSH HOST
ปล. กรณี connect_error เยอะ เกิดจาก query ค้างจำนวนมาก db รับโหลดเยอะเกิน เพราะฉะนั้น อีก Solution หนึ่งที่ดี คือปรับปรุงการ query ให้ถูกที่ถูกทาง ไม่ทำให้ db มีปัญหา หรือใช้การวาง โครงสร้าง หรือเครื่องมืออื่นๆ มาช่วยแบ่งเบาภาระ mysql   แต่โดยตัวของ mysql  เองแล้วมันทำได้แค่สองวิธีข้างต้น
connect_timeout
ตัวแปรกตัวนี้ เกี่ยวพันกับตัวปัญหาข้างบน อย่างแยกกันไม่ออก เพราะจากที่กล่าวมาข้างต้น เมื่อ connection_timeout –> wait_timeout –> บวกค่า counter ของ  connection_error โดยเฉพาะเมื่อเกิดความคับคั่ง บนระบบ network (network congestion )  เป็นไปได้ที่แต่ละ connection จะใช้เวลาหลายวินาที ในการสร้าง connection ให้สำเร็จ  แต่ค่า connect_timeout โดย default แล้วคือ 5 seconds  เราควรเพิ่มให้มันอยู่ที่ 15-20 secs โดยอาจต้องพิจารณาร่วมกับ thread_cache_size
skip-name-resolve
ถ้าจำนวน connection ที่เข้ามาที่เครื่อง mysql เยอะมากๆ นั่นคือ mysql  ต้องทำ dns lookup ทุกๆ connection  ซึ่งตอนนี้เราใช้วิธีการแก้ไขไฟล์ hosts  ที่เครื่อง mysql server เพื่อลดจำนวน lookup ที่จะเข้าไปยัง dns server  นั่นแปลว่า เวลามี backend  ใหม่ๆ เข้ามาเราต้องแก้ไข และ update /etc/hosts ตลอดเวลา เพื่อ lookup name ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ เพิ่ม config skip-name-resolve  ใน my.cnf  เลยก็ได้ เพราะยังไง ตอน grants สิทธิ์ ส่วนใหญ่เราก็ grant เป็น ip-range  อยู่แล้ว ไม่ได้ grant โดยใช้ชื่อ host
สำหรับการทำ master / slave ค่าที่ควรสนใจคือ
slave_net_timeout ให้เซ็ทไว้ที่  30 วินาที โดย default  อยู่ที่ 1 ชม. : (

///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

MySQL - วิธีการสร้าง User ใหม่ และการกำหนดสิทธิ์บน console


หลังจากติดตั้ง MySQL เรียบร้อยแล้ว ถ้าใช้ระบบปฎิบัติการ Windows ให้เปิด console ขึ้นมาโดยการกดที่เมนู Windows แล้ว search คำว่า cmd หลังเปิด console ขึ้นมาแล้วให้ไปที่โฟล์เดอร์ bin ในโฟล์เดอร์ที่ติดตั้ง MySQL แล้วรันคำสั่ง mysql

กรณีที่เจอ error ดังนี้ ให้ตรวจสอบให้แน่ว่าเราได้เปิด MySQL service เรียบร้อยดีแล้วหรือไม่
ERROR 2003 (HY000): Can't connect to MySQL server on 'localhost' (10061)
รันคำสั่ง services.msc เพื่อเรียกหน้าต่างนี้ขึ้นมา
เมื่อ MySQL service อยู่ในสถานะ Started เรียบร้อยแล้ว ลองรันคำสั่ง mysql อีกครั้ง จะขึ้น command prompt ดังนี้
mysql>
จากนั้นให้รันคำสั่งต่อไปนี้ตามลำดับ
mysql> CREATE USER 'myuser'@'localhost' IDENTIFIED BY'mypassword';
ในคำสั่ง CREATE USER ข้างต้น ส่วนที่เขียนว่า 'myuser'@'localhost' ระบุว่าจะสร้างชื่อผู้ใช้ myuser สำหรับการเข้าใช้จาก localhost ถ้าต้องการให้เข้าใช้จาก IP Address ใดก็ได้ให้เปลี่ยนเป็น 'myuser'@'%' หรือระบุ IP ก็ได้ เช่น 'myuser'@'192.168.1.10' เป็นต้น ส่วน IDENTIFIED BY ใช้กำหนดรหัสผ่าน ในตัวอย่างนี้รหัสผ่านคือ mypassword
mysql> GRANT ALL PRIVILEGES ON *.*TO 'myuser'@'localhost' WITH GRANT OPTION;
คำสั่ง GRANT ALL PRIVILEGES จะให้สิทธิ์ทุกอย่างกับ myuser ที่เข้าใช้จาก localhost คีย์เวิร์ด *.* หมายถึง สามารถจัดการได้ทุกฐานข้อมูลและทุกตาราง ถ้าเปลี่ยนเป็น test.* จะหมายความว่า สามารถจัดการได้ทุกตารางในฐานข้อมูล test เท่านั้น

/////////////////////////////////////////////////////////
/////////////////////////////////////////////////////////

/////////////////////////////////////////////////////////

วิธีแก้ ERROR 1045 (28000): Access denied for user 'root'@'localhost' (using password: YES)

ครับ...ไม่มีสิ่งใดในโลกใบที่สมบูรณ์แบบ ทุกอย่างย่อมมีข้อบกพร่อง ข้อผิดพลาดกันได้ เช่นเดียวกับ mysql บน Ubuntu 8.04 ครับ
หลังจากทำการติดตั้ง mysql+phpmyadmin ด้วยคำสั่ง apt-get
root@durian: apt-get install mysql-server phpmyadmin
การติดตั้งก็สำเร็จไม่มี error ใดๆ แต่เมื่อเรียกใช้ mysql

seksan@durian:~$ mysql -u root -p
Enter password: 
ERROR 1045 (28000): Access denied for user 'root'@'localhost' (using password: YES)
 ข้อ ผิดพลาดที่เกิดขึ้นเป็น bug ของ mysql ที่ไม่จำ password นั่งปวดหัวหาวิธีแก้ ทดลองเอา mysql ออกแล้วติดตั้งให่ก็ไม่หาย ก็ลองสืบค้นแหล่งความรู้จากโลกอินเตอร์เน็ต ก็ไปพบยาแก้ปวด http://www.debian-administration.org/articles/442 ก็ขออนุญาติแปล เรียบเรียง และทดลอง ให้นะครับ
1. หยุดการทำงานของ mysql

root@durian:# /etc/init.d/mysql stop
* Stopping MySQL database server mysqld
...done.
2. ใส่ให้ mysql ทำงานในโหมด mysql-safe
root@durian:/home/seksan# /usr/bin/mysqld_safe --skip-grant-tables &[1] 6219
root@durian:/home/seksan# nohup: ignoring input and redirecting stderr to stdout
Starting mysqld daemon with databases from /var/lib/mysql
mysqld_safe[6258]: started
3.เรียก ใช้งานโดยไม่จำเป็นต้องมี password (--skip-grant-tables)
root@durian:/home/seksan# mysql --user=root mysqlReading table information for completion of table and column names
You can turn off this feature to get a quicker startup with -A 
Welcome to the MySQL monitor. Commands end with ; or \g.
Your MySQL connection id is 111
Server version: 5.0.51a-3ubuntu5.4 (Ubuntu)
Type 'help;' or '\h' for help. Type '\c' to clear the buffer.
mysql>
จาก นั้นกำหนด password ใหม่
mysql> update user set Password=PASSWORD('รหัสผ่าน') WHERE User='root';Query OK, 3 rows affected (0.00 sec)

Rows matched: 3 Changed: 3 Warnings: 0



mysql> flush privileges;Query OK, 0 rows affected (0.00 sec)
mysql> exitBye
 4.สั่ง การทำงาน mysql
root@durian:/home/seksan# /etc/init.d/mysql start* Starting MySQL database server mysqld
...done.
5. เรียกใช้งาน
root@durian:/home/seksan# mysql -u root -pEnter password: 
Welcome to the MySQL monitor. Commands end with ; or \g.
Your MySQL connection id is 401
Server version: 5.0.51a-3ubuntu5.4 (Ubuntu)

Type 'help;' or '\h' for help. Type '\c' to clear the buffer.
mysql> 
 สรุป... วิธีนี้สำเร็จครับ และที่พลาดไม่ได้ Many thanks

วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

สูตรเด็ด เคล็ดไม่ลับ วิธีการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ที่ถูกต้อง ลงทุนน้อย แต่กำไรงาม

สำหรับเกษตรกรที่คิดจะปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์จำนวน 100 บ่อ จะใช้เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่เท่านั้น ซึ่งจะใช้เงินลงทุนมากในช่วงเริ่มแรก ส่วนค่าใช้จ่ายหลักจะอยู่ที่วงบ่อซีเมนต์และฝารองซึ่งเมื่อรวมค่าใช้จ่ายกิ่งพันธุ์มะนาว, ระบบน้ำ ฯลฯ รวมเป็นเงินในการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์จำนวน 100 วงบ่อ เป็นเงิน 27,000 บาทโดยประมาณ ต้นมะนาวในวงบ่อเมื่อมีอายุต้นเพียง 8 เดือน จะบังคับให้ต้นออกฤดูแล้งได้โดยใช้หลักการเดียวกับการปลูกลงดินคือคลุมพลาสติกให้กับต้นมะนาวในช่วงเดือนกันยายนและกระตุ้นการออกดอกในเดือนตุลาคมจะได้ผลผลิตมะนาวแก่ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่มะนาวราคาแพงที่สุด เท่ากับว่าในการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์จะใช้เวลาเพียงปีเดียวเท่านั้นสามารถเก็บผลผลิตได้ในช่วงฤดูแล้ง


การเริ่มต้นจัดผังปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์

รายละเอียดของการเริ่มต้นการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์จะต้องวัดพื้นที่ กว้างxยาว ก่อน เพื่อจะหาพื้นที่ หลังจากนั้น เว้นทางเดินประมาณ 2 เมตร ระยะปลูกระหว่างต้น 1.20 เมตร ระยะระหว่างแถว 1.50 เมตร ปลูกแบบแถวคู่แล้วเว้นเป็นทางเดิน 2 เมตร สภาพพื้นที่ปลูกจะต้องปรับให้เรียบเหมือนกับลานตากข้าว วัดระยะการวางวงบ่อ การวางวงบ่อซีเมนต์พยายามวางให้เป็นเลขคู่เพื่อง่ายต่อการวางระบบน้ำและคำนวณแรงดันน้ำ แท็งก์จะแบ่งออกเป็น 2 ชุด ชุดแรกจะก่อให้สูง ประมาณ 5 วงบ่อ หรือมีความจุน้ำได้ 1,200 ลิตรจะใช้แท็งก์นี้เพื่อผสมปุ๋ยน้ำชีวภาพแล้วเปิดน้ำดีเข้าไปผสมปล่อยไปให้ต้นมะนาวในวงบ่อได้โดยตรง ส่วนแท็งก์อีกชุดหนึ่งจะก่อให้สูงประมาณ 9 วงบ่อ จำนวน 2 แท็งก์ เพื่อกักเก็บน้ำสะอาดแล้วช่วยในเรื่องของแรงดัน

การเตรียมดินปลูกมะนาวและขนาดของวงบ่อซีเมนต์

ขนาดของวงบ่อซีเมนต์แนะนำให้เกษตรกรใช้จะใช้ขนาดวงเส้นผ่าศูนย์กลาง 80 เซนติเมตร แต่เดิมฝาวงบ่อคุณพิชัยใช้ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 80 เซนติเมตร เท่ากับขนาดของวงบ่อ เมื่อปลูกไปนาน 2-3 ปี พบว่า รากของต้นมะนาวจะโผล่ออกมานอกวงและชอนลงไปในดิน ทำให้ควบคุมในเรื่องของการบังคับให้ออกนอกฤดูได้ยากมากขึ้น ปัจจุบัน จึงได้แนะนำเกษตรกรและแก้ไขให้ซื้อฝาวงบ่อที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางยาวกว่าเส้นผ่าศูนย์กลางของวงบ่อ ใช้ฝาวงบ่อขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 90 เซนติเมตร กว้างกว่า 10 เซนติเมตรดินผสมที่จะใช้ปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ จะใช้วัสดุปลูกหลัก 3 ชนิด คือ หน้าดิน 3 ส่วน ขี้วัวเก่า 1 ส่วน และเปลือกถั่วเขียว 2 ส่วน ผสมคลุกเคล้ากัน การใช้เปลือกถั่วเขียวจะช่วยให้สภาพดินมีการระบายน้ำที่ดี ถ้าใช้แค่หน้าดินผสมกับขี้วัวจะทำให้ดินปลูกแน่น เวลาให้น้ำไป 3-4 วัน น้ำยังไม่ถึงข้างล่างของวงบ่อ ยังได้ยกตัวอย่างปริมาณของดินที่จะใช้ในการปลูกมะนาว จำนวน 100 วงบ่อ จะต้องใช้หน้าดินประมาณ 1 คันรถสิบล้อ เทคนิคในการผสมวัสดุปลูกจะต้องปูพื้นด้วยหน้าดินเป็นขั้นแรก หลังจากนั้น ใส่ขี้วัวเก่าเป็นชั้นที่ 2 แล้วตามด้วยเปลือกถั่วเขียวเป็นชั้นบนสุด หลังจากนั้นใช้เครื่องตีพรวนติดรถไถจะเร็วกว่าใช้แรงงานคน

การใส่วัสดุปลูกลงบ่อซีเมนต์มีเทคนิค

ที่ผ่านมาเกษตรกรที่ปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ส่วนใหญ่จะใส่วัสดุปลูกในวงบ่อซีเมนต์เพียงเสมอวงบ่อเท่านั้นเมื่อรดน้ำไปได้เพียงแค่สัปดาห์เดียว วัสดุปลูกจะยุบตัวลงมาประมาณ 1 คืบมือ ถ้าเกษตรกรเติมวัสดุปลูกลงไปจะไปกลบลำต้นมะนาว ปัญหาเรื่องโรคโคนเน่าจะตามมา ดังนั้น ในการใส่วัสดุปลูกลงในวงบ่อซีเมนต์จะต้องใส่ให้พูนเป็นภูเขาเลย และที่จะต้องเน้นเป็นพิเศษขณะที่ใส่วัสดุปลูกลงในวงบ่อนั้นคือ จะต้องขึ้นเหยียบวัสดุปลูกขอบๆ วงบ่อ บริเวณตรงกลางไม่ต้องเหยียบ การใส่วัสดุปลูกให้เป็นภูเขาจะช่วยในเรื่องดินยุบลงมาเสมอวงบ่อได้นานถึง 1 ปี

วิธีการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ที่ถูกต้อง

หลังจากที่ใส่วัสดุปลูกลงในบ่อซีเมนต์เรียบร้อยแล้วให้เกษตรกรขุดเปิดปากหลุมให้มีขนาดเท่ากับขนาดของถุงที่ใช้ชำต้นมะนาว (โดยปกติถ้าใช้กิ่งตอนมะนาว ควรจะชำต้นมะนาวไว้นานประมาณ 1 เดือน เท่านั้น ไม่แนะนำให้ซื้อต้นมะนาวที่ชำมานานแล้วหลายเดือน หรือชำค้างปี เนื่องจากจะพบปัญหาเรื่องรากขด ทำให้เจริญเติบโตช้าหรือต้นแคระแกร็น) รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ เช่น สูตร 16-16-16 อัตราประมาณ 1 กำมือ ถอดถุงดำปลูกต้นมะนาวให้พอดีกับระดับดินเดิม กลบดินแล้วใช้เท้าเหยียบรอบๆ ต้น เพื่อไม่ให้โยกคลอน ปักไม้เป็นหลักกันลมโยกและแนะนำให้ใช้ตอกมัดต้นมะนาวไว้กับหลัก ตอกจะผุเปื่อยหลังจากปลูกไปนานประมาณ 2 เดือน ต้นมะนาวตั้งตัวได้แล้ว แต่ที่หลายคนได้ใช้ปอฟางหรือพลาสติคทาบกิ่งมัดกับหลักจะอยู่ได้นานก็จริง แต่ปัญหาที่จะตามมาจะทำให้ลำต้นมะนาวคอด มีผลต่อการเจริญเติบโตของต้น หลังจากปลูกเสร็จให้เดินท่อ PE เจาะหัวมินิสปริงเกลอร์และวางท่อ PE พาดไปกับวงบ่อเลยเพื่อสะดวกต่อการทำงาน





ปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ได้ตลอดทั้งปี

ในการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปีปลูกไปแล้วนับไปอีก 8 เดือน เกษตรกรสามารถบังคับให้ต้นออกดอกได้ ถ้าเกษตรกรจะบังคับให้มะนาวออกฤดูแล้งในรุ่นแรกแนะนำให้ปลูกต้นมะนาวในช่วงเดือนมกราคม ในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ในปีเดียวกันบังคับต้นให้ออกดอกได้โดยใช้หลักการเหมือนกับที่ปลูกลงดิน ผลผลิตมะนาวฤดูแล้งจะไปแก่และเก็บผลผลิตขายได้ราคาแพงในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนของปีถัดไป เท่ากับว่าการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ใช้เวลาปลูกเพียงปีเศษเท่านั้น เกษตรกรสามารถเก็บมะนาวฤดูแล้งขายได้

วิธีการรดน้ำต้นมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ ทำอย่างไร

ในการผลิตมะนาวฤดูแล้งในวงบ่อซีเมนต์ ให้ใช้พลาสติคคลุมปากบ่อซีเมนต์เพื่อป้องกันน้ำหรือฝนที่ตกลงมาในช่วงแรกๆ แต่พบปัญหาว่าเมื่อเกษตรกรนำพลาสติคไปคลุมกลับรักษาความชื้นให้กับต้นมะนาวใช้เวลานานวันกว่าดินจะแห้ง หรือเลือกใช้หลักการ "ฝนทิ้งช่วง" ในแต่ละปีช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน ของทุกปี จะมีช่วงเวลาที่ฝนทิ้งช่วง ในการผลิตมะนาวฤดูแล้งในวงบ่อซีเมนต์ ถ้าฝนไม่ตกติดต่อกัน 3-4 วัน ดินในวงบ่อจะเริ่มแห้ง ใบมะนาวจะเริ่มเหี่ยว หลังจากนั้นฉีดกระตุ้นให้ต้นมะนาวออกดอกและติดผลได้

ผลิตมะนาวฤดูแล้งในวงบ่อซีเมนต์ 2 รุ่น ต่อปี

ในช่วงเริ่มแรกของการบังคับมะนาวฤดูแล้งจะทำให้ต้นมะนาวออกดอกเพียงรุ่นเดียวคือช่วงเดือนตุลาคมและไปเก็บผลผลิตในช่วงเดือนเมษายนเท่านั้น ทำให้จะต้องคอยปลิดดอกมะนาวทิ้งตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเรื่อยมาจนถึงเดือนสิงหาคม-กันยายน แต่ช่วงเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมาสภาวะตลาดมะนาวผลผลิตจะเริ่มมีราคาดีตั้งแต่เดือนมกราคมเรื่อยไปจนถึงเดือนเมษายน จึงปล่อยให้มะนาวให้ผลผลิต 2 รุ่น คือมีผลผลิตขายในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์รุ่นหนึ่ง (บังคับให้ต้นออกดอกในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม) และมีผลผลิตในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนอีกรุ่นหนึ่ง (บังคับให้ออกดอกในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม) พอเข้าสู่เดือนพฤษภาคมของทุกปีราคามะนาวจะถูกลง จะตัดแต่งกิ่งมะนาวในช่วงเวลานี้ พร้อมทั้งปลิดผลมะนาวที่ติดอยู่บนต้นทิ้งให้หมด

ตัดแต่งกิ่งมะนาวในวงบ่อซีเมนต์อย่างหนัก ทุกๆ 3 ปี

ตัดแต่งกิ่งมะนาวตาฮิติในวงบ่อซีเมนต์อย่างหนัก ทุกๆ 3 ปี โดยจะเริ่มตัดแต่งกิ่งและปลิดผลทิ้งทั้งหมดภายในเดือนพฤษภาคม ในช่วงปีที่ 1-2 จะตัดแต่งบ้างแต่ไม่มากนัก จะมาตัดแต่งหนักเมื่อต้นมีอายุประมาณ 3 ปี ซึ่งในช่วงนั้นมักจะพบว่าต้นมะนาวเริ่มโทรม มีกิ่งแห้งเป็นจำนวนมาก การตัดแต่งกิ่งมีผลทำให้ต้นมะนาวแตกกิ่งออกมาใหม่และได้ผลผลิตมะนาวที่มีคุณภาพ หลังจากตัดแต่งกิ่งเสร็จในเดือนพฤษภาคม ช่วงระหว่างเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม เป็นช่วงบำรุงต้นและสะสมอาหารเพื่อจะกระตุ้นการออกดอกรุ่นแรกในเดือนสิงหาคม

เทคนิคการเปิดตาดอก

เมื่อใบมะนาวเหี่ยวและเริ่มร่วงหรือเหลือใบยอดเพียง 1 คืบ จะเปิดตาดอกโดยใช้ปุ๋ยเคมีสูตรที่มีตัวกลางสูง เช่น สูตร 15-30-15 หรือ 12-24-12 อัตรา 1 กำมือ ใส่ให้กับต้นมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ รดน้ำจนเห็นว่าปุ๋ยละลายจนหมด (ช่วงการให้ปุ๋ยนี้ไม่แนะนำให้เปิดน้ำด้วยหัวสปริงเกลอร์ ควรจะให้น้ำด้วยสายยางจะดีกว่า) และยังได้แนะนำก่อนว่า ก่อนที่จะให้ปุ๋ยควรเปิดน้ำให้กับต้นมะนาวจนดินชุ่มเสียก่อน จะรดน้ำด้วยสายยาง 2-3 ครั้ง ทุกๆ 3-5 วันสำหรับการฉีดพ่นฮอร์โมนหรือธาตุอาหารทางใบควรฉีดพ่นอย่างเต็มที่ ฉีดพ่นด้วยฮอร์โมน โปรดั๊กทีฟ อัตรา 20 ซีซี ผสมกับสารเทรนเนอร์ อัตรา 10 ซีซี และปุ๋ยทางใบ สูตร 0-52-34 อัตรา 100 กรัม ต่อน้ำ 1 ปี๊บ (20 ลิตร) ฉีดพ่นต่อเนื่องทุก 5-7 วัน หลังจากนั้นต้นมะนาวจะเริ่มออกดอกและติดผลไปแก่ในช่วงฤดูแล้ง 

วันพุธที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ฉลาดอย่างไรไปกับ 7Q (IQ EQ CQ MQ PQ AQ และ SQ )

จะทำงานกันทั้งที ฝึกมีกันให้ครบ ไม่มีฝึกได้ แต่ถ้าไม่ฝึกก็ไม่มี 😁😁 อ่านมาแล้วพึ่งรู้เหมือนกันว่ามีหลาย Q ไม่ใช่แค่ IQ หรือ EQนะคะ
เพิ่งรู้ว่ามีตั้ง 7 Q !!!
เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ คงเคยได้ยินศัพท์ฮิตติดหูเกี่ยวกับตัว Q ทั้ง 7 ตัวคือ IQ EQ CQ MQ PQ AQ และ SQ กันมาบ้าง อยากทราบว่าเราน่าจะมี Q ตัวไหนมากหรือน้อย มาลองอ่านความหมายของแต่ละ Q กันดู
1. IQ (Intelligence Quotient) ความฉลาดทางสติปัญญา เป็นความสามารถในการคิด วิเคราะห์ การคำนวณ และการใช้เหตุผล
2. EQ (Emotional Quotient) ความฉลาดทางอารมณ์ เป็นความสามารถในการรับรู้ เข้าใจอารมณ์ตนเองและผู้อื่น สามารถควบคุม อารมณ์และยับยั้งชั่งใจตนเองและแสดงออกอย่างเหมาะสม รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา รู้จักรอคอย รู้จักกฎเกณฑ์ระเบียบวินัย มีจิตใจร่าเริงแจ่มใส และ มองโลกในแง่ดี การเจริญพรหมวิหาร 4 (เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา) จะช่วยเสริม EQ ได้ดี
3. CQ (Creativity Quotient) ความฉลาดในการริเริ่มสร้างสรรค์ มีความคิด จินตนาการหรือแนวคิดใหม่ๆ ในรูปแบบต่างๆ เช่น การ เล่น งานศิลปะ และการประดิษฐ์สิ่งของ นักวิจัยพบว่าการเล่นและท ากิจกรรมที่ส่งเสริมจินตนาการเช่น การเล่นศิลปะ การหยิบจับของใกล้ตัวมาเป็น ของเล่น การเล่านิทาน เป็นต้น จะทำให้มี CQ ดี
4. MQ (Moral Quotient) ความฉลาดทางศีลธรรม จริยธรรม คือมีความประพฤติดี รู้จักผิดชอบ มีความซื่อสัตย์ รับผิดชอบ มี จริยธรรม เป็นแนวคิดที่มุ่งตอบคำถามว่าการที่เรามีคนที่ IQ ดี EQ สูง แต่ถ้ามีระดับจริยธรรมต่ำก็อาจใช้ความฉลาดไปในทางที่ไม่ถูกต้องก็เป็นได้ MQ จึงเน้นเรื่องการปลูกฝังความดีงามซึ่งตรงกับหลักศาสนาหลายศาสนาที่สอนให้คนเป็นคนดี
5. PQ (Play Quotient) ความฉลาดที่เกิดจากการเล่น เกิดจากความเชื่อที่ว่าการเล่นพัฒนาความสามารถของเด็กได้หลายด้าน ทั้ง พัฒนาการด้านร่างกาย ความเฉลียวฉลาด ความคิดส ร้างสรรค์ อารมณ์และสังคม PQ จึงเน้นให้พ่อแม่เล่นกับลูก ถึงกับมีคำพูดที่ว่าพ่อแม่เป็น อุปกรณ์การเล่นที่ดีที่สุดของลูก
6. AQ (Adversity Quotient) ความฉลาดในการแก้ไขปัญหา คือมีความยืดหยุ่นสามารถปรับตัวในการเผชิญปัญหาได้ดี และพยายาม เอาชนะอุปสรรคความยากลำบากด้วยตัวเอง ไม่ย่อท้อง่ายๆ มองปัญหาเป็นเรื่องท้าทาย ไม่ใช่เรื่องที่ต้องจำนน
7. SQ (Social Quotient) ความฉลาดทางสังคมที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อื่น เพราะมนุษย์ไม่สามารถอยู่คนเดียวได้ ต้องพึ่งพาอาศัยซึ่ง กันและกัน มีน้ำใจเอื้ออาทรต่อเพื่อนร่วมสังคมด้วยกัน ไม่คิดว่าตนเองเหนือกว่าใคร ต้องมีใจเปิดกว้างยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น อีกทั้งต้องไม่ เบียดเบียนซึ่งกันและกัน
ท้ายสุดนี้ผมอยากจะบอกว่า ปัจจุบันนักวิจัยยืนยันว่า IQ มีส่วนเกี่ยวข้องกับความสำเร็จในชีวิต เช่น การทำงาน การเรียน แค่ 20% เท่านั้นครับ ดังนั้นจึงไม่ควรยึดถือแต่เพียงระดับความฉลาดของสติปัญญา (ทางโลก) เท่านั้น ลองให้ความสนใจกับ Q ที่เหลือด้วยก็จะทำให้เรา เป็นผู้หนึ่งที่ดำรงชีวิตอยู่ร่วมในสังคมได้อย่างมีความสุขครับ

วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2558

มาเลี้ยง "หนอนนก" กันเถอะ รวยได้ง่ายๆ กับหนอนตัวแค่เนี้ย


การเลี้ยงหนอนนกเพื่อการค้าอาจจะดูไม่เท่ เพราะหนอนเป็นสัตว์ที่ดูเหมือนกับเป็นตัวหน้าเกลียดในสายตาสาวสาว ทำให้กลุ่มวัยรุ่นจำนวนมากมองข้ามสัตว์พวกนี้ไป แต่เมื่อไปถามไปดูมาแล้วการเลี้ยงหนอนนกเพื่อการค้านั้นทำให้คนรวยมาแล้วนักต่อนักครับ เพราะการเลี้ยงหนอนนกเพื่อการค้านั้นต้องใช้ความรู้ความเข้าใจและถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่งเลยทีเดียว ความรักที่มีต่อการเลี้ยงหนอนนั้นอาจไม่เหมือนสัตว์ชนิดอื่นเพราะหนอนนั้นดูเหมือนไม่มีตัวตนแต่อันที่จริงแล้วมันมีตัวตนครับ ลองมาเลี้ยงกันดูซักครั้งครับ การเลี้ยงหนอนนกเพื่อการค้าอาจทำให้ชาวหรอยกูดอทคอมรวยพอพอกับการเล่นหุ้นเลยทีเดียว

ด้วยหนอนนกเป็นเมลงศัตรูผลิตผลเกษตรที่มีขนาดใหญ่ที่สุด การเจริญเติบโตแบบสมบูรณ์ ดังนี้ ระยะไข่ 5-7 วัน ระยะหนอน 75-90 วัน ระยะดักแด้ 5-7 วัน ระยะตัวเต็มวัย 5-6 เดือน การเพาะเลี้ยงหนอนนกเพื่อการค้า แมลงชนิดนี้มีระยะหนอนที่ยาวนานและหนอนมีคุณค่าทางอาหารสูงเมื่อใช้เป็นอาหารเลี้ยงสัตว์ในปริมาณที่เหมาะสมจะทำให้สัตว์มีสุขภาพแข็งแรง จึงมีผู้นิยมนำมาเพาะขยายพันธุ์เพื่อผลิตเป็นอาหารสัตว์เชิงการค้า เช่น เป็นอาหารสัตว์ปีก ปลาสวยงาม กระรอก ฯลฯ ดังนั้น เกษตรกรหรือผู้ที่สนใจสามารถเพาะสัตว์หนอนนกได้เองก็จะสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้ออาหารสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ได้ ขั้นตอนการเลี้ยง

1. นำอาหารไก่ 500 กรัม เทลงในถาดอะลูมิเนียมใส่หนอนนกประมาณ 300 ตัว จากนั้นใช้สำลีชุบน้ำหรือน้ำผึ้งผสมน้ำให้ชุ่มพอหมาดวางลงกลางถาด (หมั่นเติมน้ำเป็นระยะอย่าให้น้ำแห้ง) ปิดด้วยตาข่ายมุ้ง วางบนชั้นสำหรับเลี้ยงแมลงหรือเลี้ยงในห้องที่มีมุ้งลวด เมื่อหนอนขับถ่ายมูลออกมามากควรใช้ตะแกรงร่อนเอาตัวหนอนออกและนำไปใส่ถาดใหม่ เติมอาหารทุก 1-2 สัปดาห์

2. เมื่อเลี่ยงได้ระยะหนึ่งหนอนนกจะเข้าดักแด้ ซึ่งจะไม่กินอาหารประมาณ 5-7 วัน แยกดักแด้ออกมาใส่ลงในถาดใหม่ เมื่อดักแด้เปลี่ยนเป็นตัวเต็มวัยให้แยกไปไว้ในถาดที่มีอาหารเหมือนกันการเริ่มเลี้ยงหนอนโดยใส่ตัวเต็มวัยถาดละ 100-150 คู่ ตัวเต็มวัยจะเริ่มผสมพันธุ์หลังออกจากดักแด้ประมาณ 7 วัน ตัวเมียจะวางไข่ตัวละ 1-2 ฟอง/วัน อายุการวางไข่ 40-50 วัน

3. หลังจากตัวเต็มวัยวางไข่แล้ว 7 วัน ให้แยกตัวเต็มวัยออกจากถาดเดิม นำไปเลี้ยงในอาหารถาดใหม่เพื่อให้ตัวเต็มวัยวางไข่และเจริญเติบโตเป็นตัวหนอนซึ่งใช้เวลา 5-7 วัน ระยะหนอนจะลอกคราบ 10-14 ครั้ง หรือมีอายุ 76-90 วัน (ระยะการขายอายุประมาณ 60 วัน) ทำการเลี้ยงขยายอย่างว่องไว และแยกใส่ถาดอาหารใหมทุก 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้ได้ไข่หรือหนอนที่มีขนาดใกล้เคียงกันเป็นชุดๆ

ศัตรูของหนอนนก

ศัตรูพืชของหนอนนก ได้แก่ มอดแป้ง มด แมลงสาบ ที่อาจจะติดมากับอาหาร ดังนั้น ควรนำอาหารไปแช่แข็งประมาณ 7 วัน หรืออบอาหารที่อุณหภูมิประมาณ 80 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ทิ้งไว้ในอุณหภูมิปกติก่อนนำมาเป็นอาหารหนอนนก ศัตรูอื่นๆ ได้แก่ จิ้งจก นก และหนู ต้นทุนการเลี้ยงหนอนนก

การผลิตหนอนนก 1 กิโลกรัมมใช้ต้นทุนประมาณ 70 บาท ใช้เวลาการผลิต 8-9 สัปดาห์ ซึ่งปัจจุบันหนอนนกราคากิโลกรัมละ 150-200 บาท (ขึ้นอยู่กับตลาด)

หากท่านใดสนใจการเลี้ยงขยายพันธุ์ "หนอนนก" สามารถขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว สำนักวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร