เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ทิวาพร มณีรัตนศุภร สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล
เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว เครื่องดื่มสุดฟินอย่าง "ชานมไข่มุก" เข้ามาตีตลาดในเมืองไทย จนเกิดเป็นกระแสขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า มาจนถึงวันนี้ เครื่องดื่มอย่างชานมไข่มุกก็ยังคงฮิตติดตลาด แถมยังมีหลากเมนู หลากรสชาติให้เลือกดื่มดับกระหายกันอีกด้วย แต่เอ...ถ้าลองเจาะลึกเบื้องหลังของชานมไข่มุกแต่ละแก้วดูแล้ว ดูเหมือนจะไม่ดีต่อสุขภาพของผู้บริโภคเท่าไรเลยนะเนี่ย
ลองมาดูข้อมูล เจาะลึกเบื้องหลังชานมไข่มุก : คุณหรือโทษ ที่เขียนขึ้นโดย ทิวาพร มณีรัตนศุภร สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล กันดู จะได้รู้ว่าชานมไข่มุกเครื่องดื่มสุดโปรดของใครหลาย ๆ คน มี "คุณ" หรือ "โทษ" มากกว่ากัน
เจาะลึกเบื้องหลังชานมไข่มุก : คุณหรือโทษ
โดย ทิวาพร มณีรัตนศุภร สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล
ปัจจุบัน เครื่องดื่มคลายร้อนชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นชาเย็น กาแฟเย็น น้ำผลไม้ปั่น ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ชานมไข่มุกก็เป็นเครื่องดื่มอีกชนิดหนึ่งที่กลายเป็นกระแสนิยมที่มาแรงในขณะนี้ โดยเห็นได้จากจำนวนร้านค้าชานมไข่มุกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่จะมีสักกี่คนที่รู้คุณค่าทางโภชนาการของเครื่องดื่มที่กำลังมาแรงในขณะนี้
การศึกษามากมายที่ระบุถึงประโยชน์ของการดื่มน้ำชาเพื่อสุขภาพ เช่น สามารถช่วยลดความดันโลหิต ลดไขมันในหลอดเลือด และการมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยยับยั้งการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและโรคมะเร็ง ซึ่งประโยชน์ต่าง ๆ เหล่านี้ จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับชนิดของชาและความเข้มข้นในการบริโภค แต่การบริโภคชาเปรียบเสมือนเหรียญสองด้าน คือ การดื่มชาในปริมาณที่มากเกินไปอาจเกิดผลเสียต่อสุขภาพได้ เช่น ท้องผูก นอนไม่หลับ เป็นต้น
แต่ชานมไข่มุก 1 แก้ว มิได้มีเพียงแต่น้ำชาเท่านั้น แต่ยังมีน้ำเชื่อม ครีมเทียม และไข่มุกเพิ่มขึ้นมา ข้อมูลทางโภชนาการระบุว่า ชานมไข่มุก 1 แก้ว ให้พลังงาน 240-360 กิโลแคลอรี่ (คาร์โบไฮเดรต 45-62 กรัม, ไขมัน 0-14 กรัม, โปรตีน 0.4-2 กรัม) ความแตกต่างของพลังงานและสารอาหารขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำเชื่อมและครีมเทียมที่ใส่ลงไป
โดยไข่มุกที่อยู่ในชานมไข่มุกนั้น ผลิตมาจากแป้งมันสำปะหลัง ซึ่งจัดอยู่ในอาหารหมวดเดียวกับแป้งและน้ำตาล โดยไข่มุก 30 กรัม ให้พลังงาน 100 กิโลแคลอรี่ ซึ่งพลังงานที่ได้จากการดื่มชานมไข่มุกใกล้เคียงกับการรับประทานก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ 1 ชาม ที่ให้พลังงาน 326 กิโลแคลอรี่ (คาร์โบไฮเดรต 41 กรัม, ไขมัน 8 กรัม, โปรตีน 21 กรัม) หรือเปรียบเทียบปริมาณน้ำตาลที่ได้รับจากชานมไข่มุกจะเท่ากับข้าว 3-4 ทัพพี
มีการศึกษาวิจัยพบว่า การดื่มชาคู่กับนมหรือน้ำตาลจะลดคุณสมบัติของชาในการต้านอนุมูลอิสระ ยิ่งไปกว่านั้น น้ำตาลที่ใส่ในน้ำชายังถือเป็นสิ่งที่ให้พลังงานสูญเปล่า หมายถึงสิ่งที่ให้พลังงานที่มาจากคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวโดยไม่มีสารอาหารอย่างอื่นที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งมีการศึกษาระบุว่า การดื่มน้ำตาลในปริมาณมาก ๆ อย่างต่อเนื่อง เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน และโรคหัวใจและหลอดเลือดเหมือนกับการดื่มน้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มประเภทชาเขียวพร้อมดื่มที่มีวางจำหน่ายทั่วไป
นอกจากนี้ ครีมเทียมที่ใส่ลงในชานม ไขมันส่วนใหญ่จะผลิตจากไขมันปาล์มซึ่งมีกรดไขมันอิ่มตัวสูง โดยเป็นที่ทราบโดยทั่วไปว่า การบริโภคกรดไขมันอิ่มตัวเป็นสาเหตุของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
ดังนั้น การบริโภคชานมไข่มุกเป็นประจำอาจนำไปสู่การเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งการดื่มชานมไข่มุกที่เหมาะสมคือ การดื่มโดยคำนึงถึงพลังงานที่ควรได้รับในแต่ละวัน โดยการทดแทนการดื่มชานมไข่มุกกับการลดการบริโภคอาหารในกลุ่มข้าว แป้งหรือการลดปริมาณน้ำตาลที่ใส่ในชานมไข่มุกที่คุณสั่ง และหลีกเลี่ยงการใส่ครีมเทียมลงไปในชานมไข่มุกที่คุณสั่ง เพียงเท่านี้คุณก็จะสามารถลดอันตรายที่มาจากชานมไข่มุกได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น